เฟี้ยวฟ้าวมะพร้าวแก้ว รายงานตัวค่ะ
นานแล้วที่ไม่ได้ เข้ามาเขียน blog ..... จริงๆ ก็เพิ่งเคยเขียนแนะนำตัวไปครั้งเดียวเอง อิอิ
วันนี้ ได้รับแรงบรรดาลใจมาจากการอ่านรีวิวไปเที่ยว ในพันทิป ไอ้เราก็อยากจะเขียนกับเค้าบ้าง
แต่ แต่ แต่ ..... ลงรุปไม่ได้ มันเป็นปัญหาใหญ่เลยน่ะ ก็อยากโชว์ภาพนี่น่าาาา
ม้ายยยยยยย เป็นไร .... เขียนบล๊อคแทนก็ได้ อิอิ
ว่าแต่ เอาเรื่องไรดี หัวข้อตั้งไว้ว่า "ไปไหน ไปกาญจน์ " คือจริงๆ จังหวัดนี้ ไปบ่อยมากค่ะ แสนจะไกล แต่ก็น่ะ เพื่อนคู่หูเค้าขอมา เราก็จัดไป เคยไปสังขละบุรี มาเมื่อต้นปี และต้นเดือน พ.ค. ที่ผ่านมาก็ไปอีกแต่ครั้งนี้ไปใกล้ ลงมาหน่อยก็คือ เที่ยวธรรมชาติเส้นทางรถไฟสายมรณะ จุดหมายปลายทางคือ "ถ้ำกระแซ"ไปแค่ 2 วัน 1 คืน เท่านั้น การเดินทางก็เน้นประหยัดงบน้อย จริงจิ้งงงง เพื่อนบอกเราจะไปโดยนั่งรถไฟฟรีจาก สถานี กรุงธน - น้ำตก
ความรู้สึกแรก คือ ตื่นเต้น อะ นี่มันประสบการณ์นั่งรถไฟ ครั้งแรกในชีวิตเลยน่ะ มันจะเป็นอย่างไรบ้างหนออออ กลางคืนก่อนไป ก็ไปพักห้องเพื่อน ...... ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ เบย จริงๆ ไม่ใช่หลอกอากาศมันร้อนมาก ก็หลับแบบถู ๆ ไถ ๆ ไป จนกระทั้ง ตีห้า ฟ้ามาโปรด ....ฝนตกหนักแต่เช้าเลย อากาศเย็นสบาย แต่ก็น่ะ มันได้เวลาเตรียมตัวแล้ว
พอเราเตรียมตัวเสร็จ ก็ออกเดินทาง โดยรถแท็กซี่ บอกเค้าว่าจะไปสถานีรถไฟกรุงธน ......... นั่งมาสักพัก มาโผล่ แถว สาธร
เอิ่มมมม !!!!!!!!!!!!! ไม่ต้องตกใจค่ะ แบบว่าอย่าง งง เลย
พี่แท็กซี่ : ถึงแล้วครับ สถานีนี่ก็ขึ้นได้ ข้างหน้าก็มีอีกสถานี โดยจอดรถที่สถานีสะพานตากสิน
อื้อหือ ................ อะไรกันนี่ เช้ามาก็ เกิดเรื่องเลย
ประเด็นคือ เค้าคิดว่าจะมาสถานีรถไฟฟ้าธนบุรี
โห่ เรายอมที่ไหน เฟี้ยวฟ้าวสะอย่างงง เถียงในทันควันว่า
"อ่า หนูบอกว่า สถานีรถไฟกรุงธน ค่ะ "ที่อยุแถวบางกอกน้อย แล้วเค้าก็ร้อง อ๋อ .... สุดท้ายก็พามาจนถึง เสียเวลานิดหน่อย เจอป้ายข้างหน้า เขียนตัวโตๆ ว่า "สถานีบางกอกน้อย" แหน่ะ มีหันมาบอกเราว่า มันต้องเรียก สถานีบางกอกน้อย เราก็ เอออออ ออ ไป แต่ก็รุ้สึกเถียงในใจก็เราอ่านมาเขียนว่ากรุงธน นี่หว่า ขับเข้าไปจนถึงด้านไหน เจออีกป้าย เขียนตัวใหญ่กว่า ว่า"สถานี กรุงธน ....."
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าชนะ ข้าบอกเองแล้ววววว ..... หลังจากภาคภูมิใจที่ชนะเราก็ลงจากรถ ถึงสถานีประมาณ 7.00 น. ตรงดิ่ง ไปรับตั๋ว
พักไว้ก่อนไปหาของกินและเสบียงทานกลางวันด้วย ฉันตุนข้าวเหนี่ยวไก่ทอดมา ส่วนเพื่อนซื้อข้าวกับผัดพริกปลาดุก จากนั้นเราก็เตรียมซื้อน้ำและขนมตุนจากเซเว่น
จากนั้นพวกเรา ไปรอขึ้นรถไฟ ... นั่งรอ ยืนรอ บ้าง ที่ก็ไม่มีให้นั่ง คนเอย ของเอยยย เต็มไปหมด
และวันนั้นช่างโชคดีอะไรเยี่ยงนั้นนน >> มีทริปทัศนศึกษาของเด็กมหาลัยเกษตรศาสตร์ << มาเป็นรถบัส แถมดูเหมือนจะขึ้นสายเดียวกันเราก็แอบบ่น มาทำไมเนี่ยยย โห่งี้จะมีที่นั่งไหม !!!!
พอถึงเวลารถออก เราก็รีบบบวิ่งขึ้นโบกี้ 2 ขึ้นปุ๊ป ก็พบที่นั่ง แปลกๆๆ เป็นแถวยาวๆๆ ไม่เหมือนที่เคยเห็นในทีวี
เพราะอะไรน่ะเหรอ ..... เห้อ ๆๆๆๆ เค้าเตรียมใว้ให้เด็กเกษตร เสียใจจร้าบอกช้า และเราขึ้นไปแล้วมีที่นั่งแล้วติดริมเลยยยย
+++++ เสียงประกาศ +++++ บอกว่า ให้นักศึกษาขึ้นโบกี้ 2 พอ นศ.ขึ้นมาก็อึ้งค่ะ ประชากร เพี้ยบบบบบบบบบบบบบ
แต่จะให้ลุกหรอออ ฝันไปเถอะ !!! อิอิ ฉันก็คิดว่า เอาไงดีว้า ระหว่างความถุกต้องกับ ความสบาย
เมื่อหันซ้ายแล ขวา ก็พบ ทุกคนที่นั่ง ก็ไม่ยอมลุก แถมมีชาวต่างชาติอีก ฉันก็เอาว่ะ เนียนๆๆ นั่งค่ะ
T___T สุดท้ายเหล่า นศ. ก็นั่ง เหมือนกันค่ะ .... แต่นั่งกับพื้น ด้านข้างฉันเอง
ฉันเองก็กะว่า เนี่ยนๆ วุ้ยเรากับเพื่อน น่าตาเด็กน้อยกันอยุ่ ล่ะเค้าไม่รู้หลอกว่า เราโตแล้ว ฮ่า ๆๆๆๆๆ
ก็นั่งกันไปเกือบ 5 ชม. ค่ะ วิว ด้านข้างก็สวยดี ผ่านทุ่งน่า ป่า เขา มากมายย
>>> ระหว่างทางเราก็สนุกกันมากก กับ การสังเกตุพฤติกรรมของคน ++++
เราว่า ทริปนี้เป็นกันเองงง ฝุดๆๆ อะไรนะหรอ
....ตั้งแต่ ขึ้นมา ก็ หาที่นั้ง "กันเอง" 555
.... พอมีคนขึ้นเพิ่ม ไม่มีที่นั่ง ก็ หาที่ยืน "กันเอง"
....มีน้อง ผช.ขึ้นมา กัน 2-3 คนพกข้าวหลามมาด้วย ก็ คงหิว ก็ กิน "กันเอง"
.... น้องๆ นศ. ไม่มีไรทำก็ คุย "กันเอง"
!! ส่วนเราสองคนก็ หัวเราะ"กันเอง" ตลอดทาง เจออะไรสวยๆๆ ก็ หยิบกล้องมาถ่ายพัลวัล เลย !!
" กว่าจะมาถึง ก็นานแสนนาน นั่งจน เมื่อยก้น " ยังดีที่ ไม่ร้อนมาก วิวสวยลมเย็น
ก็มีเสียงเฮฮาตลอด รวมทั้งเสียงนี้ด้วย
>> ข้าวไข่เจียวไหมค่ะ ?
>>น้ำดื่มเย็น ๆ ไหมครับ
>>ขนมไหมครับ ?
>>ผลไม้ ไหมค่ะ ?
>>บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตลอดทาง เดว ขึ้น เดวลง สลับกันไปมา ....แต่ว่าไม่ได้แอ้มเราหลอกเราพกน้ำเซเว่นมา อิอิ ราคามารตรฐาน ถึงจะไม่เย็น ก็เถอะ ... 555
สุดท้าย เราก็มาถึงค่ะ กว่าจะถึงก็ลุ้นกันมากว่า ป้ายไหนน่ะ เพราะว่าเรานั่งคนละฝั่งด้วยความฉลาด เรานึกถึงรุปที่ดูมา คิดว่า น่าจะผ่านทางรถไฟที่โหดๆ ติดริมน้ำก่อนนนน
ที่ไหนได้ สถานีมันถึงก่อนน
แว้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!!!!!!!!!!!!!!! เกือบไม่ทัน ลงมาถึงก็ แชะภาพรถไฟ ที่นั่งมาก่อนเลย อิอิ
จากนั้นก็ไปเช็คอิน ง่ายๆ เพราะได้โอนเงินมาแล้วที่พักเราเป็นเรื่อนแพ ร่วมสมัย ราคาคืนละ 1500 บาทค่ะ นอนได้ 4-5 คน แต่เรามีกัน 2 คน ก็สบายเลย พอเข้าห้องปุ๊ป เปิดแอร์ เก็บของ
และทานข้าวกลางวันที่เตรียมมา แหม่ะ หิวสุดๆๆๆๆ เบย
>> ภายในห้องก็ เต็มไปด้วยพื้นที่แคบ เพราะเตียงใหญ่มากกกกกกกกกกกกกก มีโทรทัศน์ สวยๆ 1 เครื่อง และตุ้เย็น และแอร์ ทุกอย่างเปิดพร้อมกันตอน เข้าห้อง และจะปิดเองตอน เราออกจากห้อง ยกเว้น ตุ้เย็น
>> ฉันกับเพื่อนก็นอน พักเอาแรงประมาณ 2 ชม. พอแดดร่ม ลมตกก็ออกไป เดินเล่น เก็บบรรยากาศโดยรอบและ ไปที่รางรถไฟ
>> เพื่อความปลอดภัยก็ถามข้อมุลมาว่า รถไฟจะมาอีกทีเมื่อไหร่ .... และเราก็ทราบว่า อีกสักพักจะมี รถไฟจากต้นสายคือ น้ำตก ผ่านไปทาง กาจนญ์ เราจึงรอ เก็บภาพ รถไฟ มา ตา มา รถไฟ และภาพบริเวณ นั้น มีคนเดินอยุ่ เยอะ ก็ต้องระวังอย่างมากเวลาสวนกัน
>>> และที่น่าประทับใจคือ ตอนนี้เองที่เรา สองคน ได้ใช้ชีวิตร่วมกับ หนุ่มจีน คนหนึ่ง ชื่อ จอร์น อย่างเท่
คุณลุงคนหนึ่งฝากเรา ดูแล ออกแนว ให้พาเดินไปด้วย จริงๆ เค้าก็โตแล้ว แต่ก็ตามมา อย่างว่าง่าย
แหน่ะ .... และสัญชาติญาณเจ้าชุ้ ของแันมันก็ ออก ก็ สปีคอิงริช อย่างรวดเร็ว เลยว่า
" จอร์น ..... ควิ้กลี่ " อ้ายยย พุดไป เขิลไป
เป็นไงค่ะ ภาษาอังกฤษที่เรียนมา 6-7 ปี มันก็มีแค่นี้
>>>> ปกติแล้วเพื่อนฉันเค้าเป็นคน พุดน้อยยย แล้วนั้นมันก็เป็นโอกาสที่ฉันจะ พูด มาก 55555
จอร์น ก็ถาม ชื่อ เราสอง คน เราก็ตอบไป แล้ว ก็เดินตามกัน โดยเว้นระยะห่างพอสมควร
เพราะ เค้าก็มาถ่ายรุปเราก็มาถ่ายรุป
>>>> แต่ ฉัน ก็จะหันไปบอกเค้าเสมอว่า เร็ว ๆ น่ะ 555
ระหว่างนั้นเองเค้าก็ให้ฉันถ่ายรุปให้
>>>> แหน่ะ ..... มันเป็นโอกาศ อีกแล้ว 5555 และเราก็ขอให้เค้าถ่ายรูปคุ่ ให้มีปรึกษากันเรื่อ iso เล็กน้อย อิอิ เขิลๆๆๆๆ จากนั้น เราก็คลาดกัน เค้าเดินไปเร็วกว่า เข้าไปใน"ถ้ำกระแซ" เก็บภาพ ฉันกับเพื่อน เข้ามา เค้าก็ ออกมาด้านนอกแล้ว พร้อมกับพูด ....... ผม จะ ยืน อยู่ ตรง นี้ ........ ประมาณว่า รอ
ประโยค ฟัง ฟินนน ฟิน สุดๆ
ฉันและเพื่อนก็เข้าไปข้างใน และกลับออกมา เดินต่อไป อีกนิ้ด เป็นสถานีรถไฟ เราจึ้งรอ ขึ้นรถไฟกลับ และไปเจอจอร์น กำลังแกะถุงไอติม เรา สองคน ก็หิวน่ะ แต่ตอนอกมาไม่มีใครพกเงินเลยสักคน
>>> และ แล้ว วินาที นั้น เองงงง โอ้ พ่อเทพบุตรสุดฟิน ก็ยื่น ไอติมโบราณ รถโอเลี้ยงมาให้ฉัน .......... แทบละลาย ไม่ใช่ไอติม น่ะ ฉันนี้แหล่ะ อิอิ และเค้าก็ซื้ออีกแท่งให้ เพื่อนบอกว่า ขอบคุณสำหรับ ไกด์ ในใจคิดว่า ไกด์ อะไรกัน เค้า เดินมาถึงก่อนฉันอีก 555
และเราก็ขึ้นรถไฟมา โดยที่จอร์นอยุ่ท้ายขบวนฉันเข้าใจว่า เค้าคงอยากเก็บภาพจาก ท้ายขบวน
พอถึง ป้ายเราก็ลง แล้วก็เดินไปเรียก จอร์น ให้ลง
เค้าก็โพล่หน้ามาว่า และบอกว่าเค้าจะไปลง ที่ป้าย กาญจนบุรี .......................T_________T
ณ เวลา นั้นเอง ที่หัวใจ ดวงน้อยๆ ถูกพลากไปกลับรถไฟ ขบวนสุดท้ายนี้มันเป็นการพบกันครั้งสุดท้ายของเราแล้ว หรอ เศร้าไปแปปหนึง !!!!
หลังจากนั้นเราก็กลับมาพัก นั่งแช่น้ำที่แพ ที่พัก ก่อนจะ ออกไปอาบน้ำที่ห้องน้ำด้านบน
บรรยากาศสุดฟิน ห้องด้านข้าง เป็น สี่สาว แสนสวยยยย สวย เวอร์ส่วนแพ ด้านข้างก็ มีหนุ่มประมาณ 7 -8 คน พักอยุ่ เค้านำ เบียร์มาทานกัน ดีดกีตาร์ ร้องเพลงมันฟินตรงที่เวลาจะขึ้น ไปข้างบนเราต้องเดิน ผ่านตรงที่เค้านั่งกัน แบบ ผ่า กลางวง เลยทีเดียวว
>><<< เขิลสิค่ะ หนุ่มหล่อ หน้าใส ทั้งนั้นน
จากนั้นทานข้าว ที่เตรียมมานั้นแหล่ะ ก็ไปอาบน้ำ ด้านบนมีกิจกรรม ของคนที่มาแคมป์ มาเที่ยวเป็นหมู่คณะ สามด้านของรีสอร์ท เต็มไปด้วยเสียงเพลงหลากสไตร์ บ้างร้อง บ้างท่อง ก็พอฟังกันได้
ฉันกับเพื่อนตัดสินใจขึ้นไปนั่งด้านบน ดูเค้าทำกิจกรรมกันและ รอดู การจุดผุ สวยงามมาก ซึ่งไม่มีรุปถ่ายเพราะ กล้องฉันตายตอนกลางคืน ถ่ายไม่ได้ แต่ว่า ได้เก็บไว้ในความทรงจำเรียบร้อยแล้ว
จากนั้น เราก็กลับลงมายังที่พัก แหม่ ใจจริงก็อยากออกมานั่งเล่นฟังหนุ่มแพข้างๆ ดีดกีตาร์ อคุสติกให้ฟัง แต่ก็น่ะเกรงใจเพื่อน 5555 แถมฉันรุ้สึกว่า เค้าจะถามเราว่า มีถั่วมั้ย ...นึกในใจเด็กพวกนี้นี่ ทำป้าใจสั่นหมด บ้าจริง !!
<< นอนคุย กันสักพักเราก็ตัดสินใจนอน >>
แต่
แต่
แต่
ฉันเป็นคนหูไวมาก กับเสียง ผู้หญิงห้องด้านข้างไม่รุ้ นางเล่นไพ่หรืออย่างไร กรี้ดกร้าดจนนอนไม่หลับ และเนื่องจากแพมันเชื่อมโยงกันเวลามีคนเดินก็สั่นไปทั้งหมด และ ฝั่งผู้ชาย ด้านขวาก็ไม่ย่อยย อะไรจะสนุกขนาดนั้นเสียงดังกันมาก
จากพ่อหนุ่มรุปงามมม เปลี่ยน เป็นไอ้เด็กแพ กันเลยทีเดียว กว่าฉันจะหลับก็ปาไป ตี สอง ตี สาม
>>> ตื่นเช้ามา ไม่อยากลุกก็ต้องลุก เพื่อไปเก็บภาพ บรรยากาศยามเช้า ออกมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ผ่านแพ หนุ่มพบซากเปลือกถั่ว เปลือกเมล็ด ทานตะวัน เต้มมมมมมม ไปหมด
>>> ฉันจึงเข้าใจว่า อ่อ มันคงถามเพื่อนมัน แหง๋ๆๆ เมื่อคืน แค่นั้นไม่พอฉันก็ทำการแก้แค้นโดยการวิ่ง และเดินแรงๆ เพื่อสร้างความรำคาญ เล็กน้อย ฮ่าาาาาาาาาา เล่นกับใครไม่เล่น รุ้จักเฟี้ยว ฟ้าวน้อยเกินไป อิอิ
>>> จากนั้นเราก็ขึ้นมา ยังสถานี เดินไปตามรางรถไฟ เช้านี้ ฉันพกเลนส์มาตัวเดียว คือ เลนส์ฟิก 50 f 1.8 เพื่อถ่ายรุปเพื่อนของฉัน เพราะเมื่อวาน ใช้ kit เก็บภาพโดยรวมค่อนข้างเยอะแล้ว
และเราก็ทำการถามข้อมุลอีกว่าเช้านี้จะมีรถไฟมาตอนไหน ทราบว่า ยังไม่มา เราจึง เดินไปยังสะพานรางรถไฟ วิว สวยมากไม่มีคนเลย มีแต่เราเพราะเค้ายังไม่ตื่นกัน

สักพักจึงพบว่า มีพระภิกษุ 2 รูป พร้อมหนุ่มน้อยเด็กวัดถือปิ่นโตเดิมตามมา เราก็เลยเร่งเดิน ไป ให้ทิ้ง ช่วงระยะ ห่าง จากท่าน และฉันก็พบว่านี้แหล่ะ คือ ภาพที่น่าจดจำ จึงถ่ายไว้ นอกจากนั้น เราก็ ถ่าย นุ้น นี้ นั้น จนเพลิน แล้วจึงกลับมาทานอาหารเช้าเวลาประมาณ เกือบๆ 8 โมง
เป็นอาหารมื้อแรกและมื้อเดียวที่เราได้ทาน จากรีสอร์ท อาหารเช้าน่าจดจำมากๆๆ เป็นอาหารแนว บุฟเฟต์ มีหลาายแบบ มีกาแฟ มีน้ำเต้าหู้ มีน้ำผลไม้ ไข่นกกระทา เบคอน ขนมปัง ปาท้องโก๋ โตเกียว บลาๆๆๆ เยอะจริง เราก็ทานเกือบครบอย่างละนิดละหน่อย
>>>> สักพักได้ยินเสียง ปุ้น ๆๆๆๆๆๆ อีกครั้ง รถไฟมา เราจึงรีบวิ่งไปถ่ายภาพจากมุมด้านล่าง ขึ้นไปบนสะพาน ได้อารมณ์ไปอีกแบบ เหมือนรถไฟอยุ่สุงกว่าเรา เหมือนรถไฟลอยฟ้า เลย สวยงาม
>>>> หลังจากนั้น มีเวลา เราก็ไปนั่งเล่น ถ่ายรุป ฟังเพลง บนแพ อีกครั้ง ก่อนจะเตรียมตัว เช็คเอาท์และรอรถไฟเพื่อกลับกรุงธน
>>>> และเราพบว่า ถ้าเราอยากมีที่นั่ง ก็ควรนั้งที่ต้นสถานี พอดีมีรถไฟจากกรุง ธน เพื่อไปยังน้ำตกมาพอดี เราจึงขึ้นไป และหาที่นั่งว่างๆ นั่ง ....... นั่งไปจนสุดสายที่น้ำตก วิว ด้านข้าง สวยงามมากค่ะ
+++++ พอถึงที่ปลายทาง ฉันนั่งรอบนรถไฟ คันเดิม ส่วนเพื่อน วิ่งลงไปรับตั๋วฟรี และกลับขึ้นมา ......
เราก็นั่งรถย้อนกลับกรุงธน ผ่าน ถ้ำกระแซอีกครั้ง ก็มีโอกาศ ถ่ายรุป ในอีก 1 มุมมองคือ ถ่ายจากรถไฟ
และ เราก็ สนุกสนานกับการเก็บภาพวิวด้านข้าง +++++
บรรยากาศบนรถไฟ ต่างจากขามา เพราะว่าว่างมากกกกกกกกกกกกกกกก และเมื่อถึงสถานีกาญจนบุรีมีการถอดโบกี้ที่อยุ่ต่อจากฉันออก ทำให้ฉันเป็นโบกี้ สุดท้าย ยิ่ง ฟินใหญได้ ออกไปถ่ายภาพด้านหลังและด้านข้าง สนุกเลยค่ะ เนื่องจากเมมมีน้อย ถ่ายไปก็ลบไป 5555
ระหว่างทางเราก็พบว่า รถไฟไทยสายนี้ กันเอง จริง ๆ น่ะ เมื่อมีการจอด พัก 5 นาที มีป้า 2 คน ลงไปซื้อมาม่า แล้วรถไฟ ออก ป้าแกก็ วิ่ง ๆๆๆๆๆๆ วิ่งใหญ่เลย สักพักรถไฟ จอด แล้วรอ รับป้าขึ้นมา
ไม่รุ้ว่านี้เรื่องปกติหรือป่าว แต่สำหรับฉันกลับเพื่อนมันน่าประทับใจ ตลกและ สร้างรอยยิ้มให้พวกเรา
เวลาผ่านไป เกือบ หกโมง รถไฟก็จอดที่สถานีหนึง แล้วก็ออกไปต่อ สักพัก ฉันรุ้สึกว่า รถไฟถอยหลังกลับอย่าง ช้า ๆๆๆ เค้าว่ากันว่า คนขับรถไฟลืมรับเจ้าหน้าที่ที่ลงไปสถานีก่อน
เอาอีกแล้วววว อะไรจะตลกแบบนี้ รถไฟ ถอยหลังกับไปรับคน กับพ่วงโบกี้ และเดินทางต่อ สุดท้ายเราก็มาถึง กรุงธนช่วง 2 ทุ่มสายนิดหน่อยย
เราเหนื่อย หิว และ สนุกมาก
ฉันกับเพื่อนก็แยกทางกัน กลับห้องง
สิ้นสุดการเดินทาง ลาดพร้าว - ถ้ำกระแซ ณ เวลา 20.00 น.
"ทุกการเดินทาง เป็นการเปิดโลก สำหรับฉัน มีสิ่งมากมายให้เราได้ดูได้เรียนรู้ ได้จดจำ และได้รอยยิ้ม เสมอ"
สุดท้ายนี้ ฝากรุปถ่ายผลงาน ของฉันรวมทั้ง คอมเม้นต์เป็นกำลังใจเล็กๆๆ ให้กับเฟี้ยว ฟ้าวด้วยน่ะคะเรียบเรียงและถ่ายภาพ :: วันวิสาข์ เทียนงาม (Frogy sortoon )
#Film style #frogysortoon






































































ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น